เมนู

อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังดับ
และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี

กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-


[1184] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด กายสังขารไม่ใช่
กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น,
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่
กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กาย-
สังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, กายสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาส จิตตสังขารไม่ใช่กำลัง
ดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, เว้นลม
อัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้า

นิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขาร
ไม่ใช่กำลังดับ และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ

วจีสังขารมูล


วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-


[1185] วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, จิตตสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด วจีสังขารไม่ใช่
กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น,
เว้นวิตกและวิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้า
นิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขาร
ไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, วจีสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?